เมื่อรู้ว่าถึงวันของการทำงานคุณผู้อ่านรู้สึกอย่างไรคะ?
5 แนวเพลง ที่จะช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงาน » Unlockmen
- ปลุกไฟในการทำงาน แนวทางการปรับพฤติกรรม และจัดสรรเวลา
- 10 วิธีปลุกพลังใจสร้างไฟในการทำงาน
- 9 วิธีเพิ่มพลังให้ตัวเอง ในวันที่หมดไฟ แอบเซ็งกับชีวิต – ส่วนอำนวยการและสารบรรณ
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล การได้พูดคุยกับคนที่เก่ง ๆ หรือคนที่แอคทีฟในการทำงานมาก ๆ จะช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับชีวิตได้ แล้วก็ยังสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานได้ด้วย เพราะคนเหล่านี้จะมีทริคดี ๆ หรือประสบการณ์ชีวิตเจ๋ง ๆ ที่ช่วยให้เรามีไอเดียใหม่มาปรับใช้ในชีวิต ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่ต่างจากโลกการทำงานเดิม ซึ่งจะส่งผลไปถึงศักยภาพในการทำงานที่ดีขึ้น
7. ดูแลตัวเอง ลองหาวิธีออกกำลังกายที่ถนัด ทำแล้วไม่ฝืนตัวเองดู เพราะการได้ออกแรงบ้างก็มีส่วนช่วยให้เราสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น หนีจากการนั่งหน้าคอมนาน ๆ ที่ทำให้เสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมและทำให้เราขี้เกียจไปบ้าง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยให้มีสมาธิ และนอนหลับได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และก็อย่าลืมกินอาหารที่มีประโยชน์บ้าง อย่าตามใจปากแค่ของที่ตัวเองชอบเท่านั้น
เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ การลาออกไม่ใช่ทางออกเดียวในการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานของคุณ เพียงแต่คุณเริ่มต้นง่ายๆด้วยการจัดโต๊ะทำงานใหม่ เปลี่ยนวอลเปเปอร์หน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ถือเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงแล้ว หรือ ถ้าคุณโชคดีได้ทำงานในออฟฟิศที่เปิดกว้างให้พนักงานสามารถเลือกมุมทำงานเองได้ตามใจ คุณอาจลองเปลี่ยนบรรยากาศ วิวเดิมๆ คนเดิม ๆ ไปหาสเปซใหม่ๆเพื่อสร้างบรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมการจุดไฟในการทำงานอีกครั้ง
9 วิธีเพิ่มพลังให้ตัวเอง ในวันที่หมดไฟ แอบเซ็งกับชีวิต – ส่วนอำนวยการและสารบรรณ
ออกไปแตะขอบฟ้า
หาเวลาออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เป็นการพักผ่อนไปในตัวและเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเดิม ๆ ด้วย ที่สำคัญการออกท่องเที่ยวในที่ที่เราไม่เคยไป ยังอาจเปิดโลกให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ด้วยล่ะ
5. อยู่กับคนที่รัก
การพาตัวเองไปอยู่ในแวดล้อมของคนที่รักจะเป็นเหมือนการชาร์จแบตฯ ให้ตัวเองอีกวิธีหนึ่ง แต่ที่สำคัญตัวเราเองก็ต้องปลดปล่อยความรู้สึกตึงเครียดที่มีออกไปด้วยนะคะ และรับพลังจากคนที่รักเราเอาไว้ให้เต็มอ้อมกอด
6. ให้กำลังใจตัวเองเสมอ
นอกจากกำลังใจจากคนรอบข้างแล้ว กำลังใจจากตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเช่นกันค่ะ ดังนั้นหายใจเข้าลึก ๆ บอกตัวเองให้สงบจิตสงบใจสักแป๊บแล้วค่อยสู้ต่อ ยังไงเราก็เอาอยู่
7. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นคล้าย ๆ ยาวิเศษ ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และในขณะที่ออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลินที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกตื่นตัวด้วยนะคะ ดังนั้นใครจะลองปลุกไฟให้ตัวเองด้วยวิธีนี้ก็ไม่เลวนักหรอก
8. พักผ่อนให้เพียงพอ
บางทีการที่เราหมดไฟ เบื่อหน่าย อาจเป็นเพราะร่างกายต้องการการพักผ่อนที่มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้นะคะ ฉะนั้นพยายามนอนหลับให้เต็มที่ ให้ตัวเองได้พักผ่อนเยอะ ๆ จะได้มีแรงลุกขึ้นสู้ทุกปัญหาอย่างไม่ย่อท้อ
9.
ตามหาต้นตอของอาการหมดไฟให้เจอ วายร้ายตัวฉกาจที่มักสวมบทนักดับเพลิง จ้องแต่จะดับไฟในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนตาดำๆให้มอดตลอดเวลาไม่ได้มีแต่ความเครียด แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะจิตใจที่เหนื่อยอ่อนจากการทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อน หรือ ทำไปก็ไม่มีใครเห็นคุณค่า จึงเกิดความเบื่อหน่ายในงานที่ทำ พาลให้ความตื่นเต้นเร้าใจในงานที่ทำซึ่งเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจเริ่มเหือดหายไปทีละน้อย ขาดพลังที่จะลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าเหตุผลที่ทำให้คุณหมดไฟขาดแพชชั่นในการทำงานคืออะไร จงตามหาให้เจอ เพื่อแก้ไขและเติมเชื้อไฟให้ถูกกอง
2. ปรับวิธีการทำงานใหม่ การทำงานไม่ใช่การวิ่งมาราธอน ที่ประชันความอึดดูว่าใครจะทนนั่งทำงานได้นานที่สุด แต่การทำงานต้องวัดที่ผลของงาน แทนที่จะเอาแต่นั่งอมทุกข์อยู่ใต้ภูเขางานทั้งวัน สู้ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ปรับรูปแบบการทำงานใหม่ สร้างเช็คลิสต์เพื่อตั้งเป้าหมายระยะสั้นในการทำงานแต่ละวัน เช่น วันนี้ตั้งใจทำงานเสร็จกี่ชิ้น หรือ วันนี้จะตั้งใจทำงานให้ดีกว่าเดิมในส่วนไหน เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติและความท้าทายในการทำงาน ที่สำคัญเป็นการเติมเชื้อ "ไฟ"ให้ตัวเองทางอ้อม จากการได้ชื่นชมกับความสำเร็จในเป้าหมายเล็กๆ ของตัวเอง
3.