พิจารณาการเพิ่มปริมาตรของก๊าซ และการเพิ่มจำนวนโมเลกุล ในระบบใด ๆ ที่มีก๊าซเข้าทำปฏิกิริยากันปริมาตรของก๊าซจะมีผลต่อความเข้มข้นของก๊าซนั้น ดังนี้ ความเข้มข้น = ดังนั้น ถ้าก๊าซจำนวนเดิม ( n คงที่) แต่เปลี่ยนแปลงปริมาตร ( เพิ่ม - ลด v) ย่อมมีผลต่อความเข้มข้นด้วย กล่าวคือ ถ้าเพิ่ม V ความเข้มข้นก็จะลดลง อัตราการเกิดปฏิกิริยาก็จะลดลงด้วย ถ้าลด V ความเข้มข้นก็จะเพิ่มขึ้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาจึงเพิ่มขึ้นด้วย ปริมาณ ปริมาตร = โมล / ลิตร
5. 2) กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยาเคมี สามารถหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีได้อีกวิธีหนึ่ง คือ การหาจากความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารตั้งต้นกับอัตราปฏิกิริยา ซึ่งเรียกว่า กฎอัตรา หรือ สมการอัตรา ( Rate Low) สรุปได้ดังต่อไปนี้ (1) กฎอัตรา ( Rate Low) เป็นความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีกับความเข้มข้นของสารตั้งต้น ยกกำลังเลขใดค่าหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะได้จาก การทดลอง เท่านั้น ปฏิกิริยา A + B C กฎอัตรา; r = k[A] x [B] y
6. (2) สมการอัตรา เป็นการเปลี่ยนความสัมพันธ์จากกฎอัตราให้อยู่ในรูปของสมการ โดยคูณด้วย ค่าคงที่ของอัตรา ดังสมการ สมการอัตรา; r = k[A] m [B] n ค่า x, y เป็นตัวเลขที่ได้จาก การทดลองเท่านั้น และเป็นค่าที่แสดงถึงอันดับของปฏิกิริยา (3) อันดับของปฏิกิริยา เป็นค่าตัวเลขใด ๆ ( x, y) ที่หาได้จากผลของการทดลองเท่านั้นเพื่อแสดงให้ทราบถึงความสัมพันธ์ที่ว่า เมื่อความเข้มข้นของสารตั้งต้นเปลี่ยนไป x เท่า อัตราของปฏิกิริยาจะเปลี่ยนไปกี่เท่า แบ่งออกเป็นปฏิกิริยาอันดับศูนย์ อันดับหนึ่ง อันดับสอง และอันดับสาม แล้วแต่ปฏิกิริยา
7.
การ ใช้ like กับ like a girl
การ ใช้ like กับ liées au coût de la vie
(2) ถ้ามีสารตั้งต้นต่างสถานะกัน ( เช่น ก๊าซกับของเหลว ของแข็งกับสารละลาย, ของเหลวกับก๊าซ) พื้นที่ผิวของสารจะมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 4) การเพิ่มพื้นที่ผิวของของแข็ง อาจทำได้โดยทำให้เป็นแผ่นชิ้นเล็ก ๆ ยิ่งเล็กมากก็จะเพิ่มพื้นที่ผิวมาก ถ้าบดให้ละเอียดยิ่งทำให้สารมีพื้นที่ผิวมากขึ้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาก็จะเพิ่มขึ้น 5) การที่สมการมีพื้นที่ผิวมากทำให้มีอัตราการเกิดปฏิกิริยาได้เร็วเป็นเพราะเป็นการเพิ่มจำนวนอนุภาคของสารตั้งต้นมีจำนวนมากขึ้นที่สัมผัสกัน และชนกันได้มากโอกาสเกิดปฏิกิริยาจึงมีมากขึ้น
10. 3. ผลของอุณหภูมิที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีหลักที่ควรพิจารณาผลของอุณหภูมิต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ดังนี้ 1) ปฏิกิริยาเคมีโดยทั่วไปมี 2 ประเภท เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงพลังงานของระบบ คือ ประเภทคายความร้อน และประเภทดูดความร้อน 2) สมการแสดงค่า H 3) ปฏิกิริยาคายความร้อนจะเกิดได้ดีที่อุณหภูมิไม่สูงนัก ส่วนปฏิกิริยาคายความร้อนจะเกิดได้ดีที่อุณหภูมิค่อนข้างสูง
11. 4) ปฏิกิริยาส่วนมากจะเกิดได้เร็วนั้นจะต้องใช้พลังงานความร้อนเข้ามา โดยมีหลักทั่วไปว่า อัตราการเกิดปฏิกิริยาทั่ว ๆ ไป จะเพิ่มขึ้นเมื่อ ระบบมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 5) ตัวอย่างในเรื่องผลของอุณหภูมิที่มีต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจำวันได้แก่ การเก็บอาหารไว้ในตู้เย็น ( อุณหภูมิต่ำ) อาหารจะไม่บูดเน่า แต่ถ้าเก็บไว้ในข้างนอก ( อุณหภูมิปกติ) จะทำให้อาหารบูดเน่าได้ง่าย
12.
- หลวง พ่อ คล้าย รุ่น พิเศษ 2498
- รับรถป้ายแดงต้องเตรียมอะไรบ้าง
- เครื่อง หนีบ ยก โคน ผม เลอ ซา ช่า
- ทำไมเจนนี่ถึงใจร้ายกับฟอเรสต์?
- รูป หล่อ สมเด็จ โต เนื้อ ผง
- สายไฟ-YAZAKI-รุ่น-VAF2X25-SQMM-ขนาด-100-เมตร-สีขาว - Thai Watsadu - Thai Watsadu
- ดูหนังออนไลน์harrypotter7.2 jasonbournesubthai From Vegas to Macau II (2015) โคตรเซียนมาเก๊า เขย่าเวกัส 2 หนังอารเต็มเรื่อง
- Ti 84 plus ce ราคา game
- ทาวน์ โฮม ลําลูกกา ขาย ดี ล่าสุด
- หนังสือ แม่ครัว หัวป่า ก์ pdf
- หลวง พ่อ คูณ 2537 กรมการ ปกครอง
- ไอ ติ ม เซ เว่ น เซน พากย์ไทย